การสร้างหนังนั้น กำหนดตัวละครอย่างไร

ในการสร้างหนัง สร้างภาพยนตร์ แต่ละเรื่องก็จะมีคำถามว่าใครจะเล่นเป็นตัวไหนดี ตัวละครตัวนี้ใครจะได้รับบทนั้น ทำให้เหล่าบรรดาผู้สร้างหนังต้องมานั่งคิดกันว่าใครที่เหมาะสมหรือใครควรจะได้รับบทนี้ไป มิใช่ว่าจะเลือกใครมารับบทก็ได้ เพราะนักแสดงแต่ละคนก็ต้องมาทำความเข้าใจกับบทเสียก่อน บางครั้งตัวละครที่เด่นมากๆ ก็ได้นักแสดงหน้าใหม่เข้ามาแล้วก็โด่งดังกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนได้เหมือนกัน
แล้วทำอย่างไรถึงจะรู้ได้ว่าใครเหมาะกับบทนั้นหรือไม่
อย่างที่ได้ยินมาตั้งแต่แรกก่อนที่จะเลือกนักแสดงนั้น จะต้องมีการมาแคสงานทำการคัดตัวนักแสดง นักแสดงบางคนหุ่นก็ไม่ได้หน้าตาก็ธรรมดา แต่ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ตรงกับความต้องการ ผู้สร้างต้องการคนนี้ก็ต้องมีการจัดการแต่งหน้าแต่งตัวกันใหม่อย่างนักแสดงต่างประเทศหลายคน ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา มีทั้งการสร้างกล้ามเนื้อมาใหม่ ลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก หรือแม้แต่กระทั้งต้องไปเสริมนม เสริมฟัน ก็ต้องทำทั้งหมด พอถึงเวลาหนังออกฉายจริงๆ ก็ตอบโจทย์ให้กับผู้ชมได้อย่างหมดเปลือก พอนักแสดงทำหน้าที่ของตัวละครได้ดี ผลดีก็ตามมาทั้งหมด ทั้งผู้สร้างและตัวละคร
การเลือกตัวนักแสดงจะต้องมีการเตรียมการกันอย่างน้อย 1 ปี ตั้งเริ่มตั้งทีมคัดสรรนักแสดงมาทำการทดสอบบท ทำการดูในส่วนรูปร่างหน้าตา และต้องดูถึงประวัติของตัวนักแสดงด้วย เรียกว่าต้องสอบประวัติกันยาวแบบที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย แล้วก็ทำการแคสติ้ง ตรงนี้นักแสดงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเป็นแบบไหน ต้องทำอย่างไรถึงให้ถูกใจเจ้าของค่ายหนังรู้เพียงแค่ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด ยิ่งช่วงนี้ใครที่ฉายแสงได้เยอะที่สุด ฉายแววได้เยอะที่สุดก็จะมีโอกาสมากที่สุด อย่างกับเมื่อนานมาแล้ว ที่มีการแคสติ้ง นักแสดงของหนังอหังการระดับโลกอย่าง แฮร์รี่พ็อตเตอร์ ซึ่งก็มีนักแสดงเข้าร่วมคัดตัวอย่างมากมาย ทุกคนต่างก็มีหวังกันทั้งนั้น คัดตัวกว่าหลายพันคนแล้วก็ได้นักแสดงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ร่วมเล่นหนังเรื่องนี้
เส้นทางแห่งนักแสดงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิดไว้อย่างแน่นอน เพราะบางคนที่เก่งในเรื่องร้องเรื่องเต้น ก็ยังไม่สามารถมาเล่นหนัง เล่นละครได้เพราะเมื่อต้องมาเปลี่ยนบทบาทในทางที่ตัวเองไม่ถนัด มาในสิ่งที่ไม่รักก็ยากที่จะถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นออกมา มันจึงเป็นเส้นทางที่ไม่ง่ายสำหรับคนที่จะเข้าสู่วงการนี้เลย จะว่าไปไม่ว่าวงการไหนถ้าเราไม่จริงจังกับมันก็ยากที่จะอยู่ยืนระยะยาวได้เหมือนกัน แต่ที่ยากกว่านั้นก็คือการที่ได้เข้ามาแล้ว แล้วก็รักษาระยะในการทำงานเอาไว้ ตรงนี้ก็จัดว่าอยากกว่าหลายเท่าตัวยิ่งนัก ก็เหมือนนักกีฬาที่ได้ที่ 1 ไปแล้วสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการรักษาตำแหน่งเอาไว้ เราก็ไม่รู้เลยว่าคนที่จะมาล้มแชมป์อย่างเราเขาจะมีอะไรดีมาบ้าง ก็คงต้องฝึกฝีมืออย่าให้ขาดและต้องหาแนวทางใหม่มาเพื่อฝึกฝีมือกันด้วย อย่าคิดว่าวงการหนังนั้นเข้ามาง่ายอย่างที่คิด ถ้าอยากเข้ามาจริงๆ ต้องศึกษาและเรียนรู้ให้มากกว่าที่รู้